[GOT7 OS] GARDENIA. #BAMJAE
ความลับจะเป็นความลับได้ต่อไป ถ้า...
ผู้เข้าชมรวม
4,587
ผู้เข้าชมเดือนนี้
14
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[GOT7 OS] GARDENIA.
Title : GRADENIA
Pairing : Bambam x Youngjae [Ft. BNIOR]
Rate : NC-18
Note : เป็นโปรเจคต์วันเกิดแบมแบมที่ทำร่วมกับพี่โบ (MarkBam) / พี่แคช (JackBam) / พี่ฉัตร (YugBam) / บีมมี่ (NiorBam) และ น้องฟิม (BBam) เป็นโปรเจคต์ที่ทุกคนทุ่มเทมาก (ผ่านการไฝว้ในไลน์มาเป็นเดือน + ตบตีแย่งชิงฉลากจับคู่) ขอฝากโปรเจคต์ฟิคสั้นวันเกิดตะหนูแบมแบมไว้ในอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ
หมายเหตุ : ฟิคเรื่องนี้แบมแบมไม่ใส และไม่มีเจตนาทำให้ศิลปินเสื่อมเสียใดใดค่ะ
Project #ดอกไม้ของแบมแบม
MARKBAM #ทีมทิวลิปมบ
Red Tulip by @RitzBoTnp
JACKBAM #ทีมคาร์เนชั่นจบ
Pink Carnation by @JanuaryBsix
YUGBAM #ทีมกุหลาบยบ
ROSE by @JYthebest94
NIORBAM #ทีมไลแลคแบมนยอง
LILAC by @bbeammmm
BBAM #ทีมลิลลี่บีแบม
YELLOW LILLY by @Yoursery
ขณะนี้ คุณอยู่ที่สถานี…
BAMJAE #ทีมการ์ดิเนียแบมแจ
GARDENIA by @mookiizsgc7
ความหมายของดอกการ์ดิเนีย
“ความรักในความลับ”
ท่ามกลางแสงแฟลชจากกล้องราคาแพงนับร้อยตัวที่สาดมายังชายหนุ่มทั้งห้าคนที่ยืนสง่าบนเวที ไอดอลหนุ่ม 5 คนหลากหลายสัญชาติภายใต้ชื่อวง GOT5 ประกอบไปด้วย ลีดเดอร์ที่มีความเป็นผู้นำสูง อิมแจบอม , พี่ใหญ่ของวง ชายหนุ่มชาวไต้หวันที่ถือสัญชาติอเมริกา มาร์ค หรือ ต้วนอี้เอิน , สมาชิกชาวฮ่องกง อดีตนักฟันดาบ หวังเจียเอ๋อ หรือ แจ็คสัน , มักเน่สัญชาติเกาหลี คิมยูคยอม และ หนุ่มน้อยสัญชาติไทย กันต์พิมุก ภูวกุล หรือ แบมแบม
สำหรับกิจกรรมในวันนี้คือ งานแฟนไซน์ ที่จะมีการแจกลายเซ็นของศิลปินโดยคัดเลือกผู้โชคดีจากการส่งบัตรลุ้นงานกิจกรรมที่อยู่ภายในอัลบั้ม ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นการวัดดวงอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยทั้งโชคและการเงินในระดับหนึ่ง เพราะถ้าใครมีเงินมากหน่อยก็สามารถซื้อได้หลายๆแผ่น และนั่นก็หมายความว่ามีสิทธิ์ที่จะได้เข้าร่วมงานสูง และงานแบบนี้ก็เป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้ใกล้ชิดกับศิลปินที่ตนรัก รวมไปถึงได้พูดคุยและทำกิจกรรมพิเศษๆร่วมกับศิลปิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่แฟนคลับแต่ละคนจะยอมทุ่มกันสุดตัว บางคนก็ซื้อหลายร้อยแผ่นเพียงเพื่อเอาบัตรลุ้นสิทธิ์เข้างาน บางคนก็ซื้อเพียงสองสามแผ่นและอาศัยดวงที่มีทั้งชีวิต เรียกได้ว่ากว่าจะได้เข้ามาร่วมงานนี้ บรรดาแฟนคลับหลายร้อยชีวิตต้องเหนื่อยและลุ้นกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
แฟนคลับที่เข้ามาร่วมงานในวันนี้เป็นผู้หญิงเสียเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นแฟนคลับที่เป็นผู้ชายจึงกลายเป็นจุดสังเกตของคนในงานไปโดยปริยาย และหนึ่งในสิบเปอร์เซ็นต์ของแฟนคลับชายในงานนั้นก็มี ชเวยองแจ รวมอยู่ด้วย
ชายหนุ่มผิวขาวกับดวงตาเล็กเรียวที่จัดว่าหน้าตาดีพอสมควร เผลอๆจะดีเทียบเท่ากับศิลปินหนุ่มทั้งห้าคนที่กำลังยืนพูดคุยกับแฟนๆอยู่บนเวทีเสียด้วย ยองแจเป็นแค่นักศึกษาธรรมดาๆคนหนึ่งที่ดันมาหลวมตัวชื่นชอบศิลปินวง GOT5 เข้าจากการที่ถูกเพื่อนๆผู้หญิงในมหาวิทยาลัยพูดกรอกหูอยู่ทุกวัน
มือเรียวข้างหนึ่งกำแผ่นซีดีเอาไว้แน่น เพื่อเตรียมตัวขึ้นบนเวทีไปเข้าคิวแฟนไซน์ ในขณะที่กล้อง DSLR ขนาดใหญ่ที่ถูกประกอบกับเลนส์เทเล 70 – 300 mm ก็ยังคงทำงานไปเรื่อยๆ เพราะการที่แฟนคลับจะมีกล้องระดับสูงรวมไปถึงเลนส์ที่ราคาสูงลิบลิ่วติดตัวถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับแวดวงแฟนคลับไปเสียแล้ว
‘ นี่ เธอว่าวันนี้จะมีบ้านแฟนไซต์บ้านไหนมาบ้าง ? ’
เสียงคุยเจื้อยแจ้วจากหญิงสาวสองคนที่ยืนเข้าแถวต่อหลังจากยองแจทำให้ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะแอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่
“ถ้าเป็นของมาร์คอปป้า คงไม่พ้นบ้าน KISS MARK ล่ะมั้ง” หญิงสาวคนหนึ่งตอบ
“มีคนบอกว่าบ้าน CHICXBUM ของเจบีอปป้ามาด้วยนะ”
“ส่วนใหญ่พวกบ้านใหญ่ๆก็มาหมดนะ WITH JACKSON กับ YUGIANT ก็มา ฉันเพิ่งเห็นเขาลงรูปพรีวิวในทวิตเมื่อกี๊เอง”
“แล้วบ้าน HAPPY (BA)MAKER ของแบมแบมมารึเปล่า ? นั่นก็บ้านใหญ่ของแบมแบมนี่”
“น่าจะมามั้ง บ้านนั้นก็ตามแบมแบมบ่อยอยู่นะ”
บทสนทนาของสาวๆทั้งสองคนตกอยู่โสตประสาทของยองแจโดยที่เขาไม่ต้องพยายามแอบฟังมากนัก เพราะพวกเธอยืนอยู่ติดกับเขา รวมไปถึงพูดเสียงดังขนาดนั้น หลายๆคนที่อยู่ห่างออกไปก็ยังได้ยินสบายๆ
“ว้าว~ อปป้าเป็นแฟนบอยแบมแบมเหรอคะ ?”
หนึ่งในสองสาวที่พูดคุยกันเมื่อครู่นี้เปลี่ยนประเด็นหันมาทักทายยองแจที่ยืนถ่ายรูปอยู่แทน ส่วนเหตุผลที่พวกเธอคาดเดาว่าเขาเป็นแฟนบอยของแบมแบม อาจจะเป็นเพราะพวกเธอคงเห็นพวงกุญแจตุ๊กตาชัคกี้ผมทองตัวเล็กๆที่ห้อยอยู่ที่กระเป๋าสะพายของเขานั่นเอง
“ก็… ครับ” ร่างบางยิ้มให้อีกฝ่ายอย่างเป็นมิตร แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใครก็ตาม แต่ถ้าเป็นกลุ่มแฟนคลับ GOT5 ด้วยกัน ยองแจก็ยินดีที่จะคุยด้วยเสมอ
“จริงเหรอคะ ฉันก็เป็นเมนแบมแบมอปป้าเหมือนกันค่ะ”
“จริงเหรอครับ ?”
“ใช่ค่ะ ฉันชอบแบมแบมอปป้ามากเลย ทั้งน่ารักทั้งใจดี เคะน้อยของพี่มาร์ค~”
“ไม่จริง แจ็คแบมเรียลกว่าย่ะ !” เพื่อนของเจ้าหล่อนเสียเองที่เป็นฝ่ายเถียงขึ้นมา
“มาร์คแบมต่างหากเล่า !”
ยองแจได้แต่ยืนยิ้มน้อยๆกว่าสงครามคู่จิ้นของทั้งสองสาว จริงๆเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจพวกผู้หญิงที่จับคู่จิ้นให้ศิลปินอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเท่าไหร่นัก อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเองก็เป็นผู้ชายเหมือนๆกับสมาชิกวง GOT5 และเพราะแบบนั้นเอง ทำให้สมาชิกวง GOT5 ต่างก็แจกโมเม้นท์เซอร์วิสแฟนๆ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดได้ตลอดงาน
“กรี๊ด ! ดูนั่นสิ แบมแบมซบไหล่เจบีอปป้าด้วย”
“เมื่อกี๊แจ็คสันอปป้าก็กอดมาร์คอปป้านะ ฉันเห็นยูคยอมค้อนใส่ทั้งสองคนใหญ่เลย หวงมาร์คอปป้าแน่ๆ โอ๊ย ฟิน !”
บรรยากาศในงานยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดกับแสงแฟลช แถวรันคิวแฟนไซน์ก็ใกล้จะถึงคิวของยองแจ ร่างบางจึงยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก แม้ว่าเขาจะเคยเจอศิลปินวงนี้มาหลายครั้งแล้วก็ตามที
ยองแจเป็นแฟนคลับของวง GOT5 มาได้ประมาณหนึ่งปีเศษๆ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตามศิลปินวงนี้อย่างจริงจัง และลงทุนซื้อกล้อง DSLR กับเลนส์เทเลมาตัวหนึ่งเพื่อตามถ่ายสมาชิกวง GOT5 ซึ่งสมาชิกที่ยองแจชื่นชอบที่สุดก็คงจะไม่พ้นเจ้าของคาแรคเตอร์ตุ๊กตาชัคกี้ที่เขานำมาห้อยกระเป๋าอย่าง แบมแบม
เมื่อเห็นว่าถึงคิวที่ตัวเองจะต้องเดินขึ้นเวที ร่างบางจึงรีบแยกส่วนประกอบกล้องเก็บลงกระเป๋าเพื่อทำตามกฎของงาน ก่อนที่ขาเรียวจะค่อยๆก้าวขึ้นไปบนเวทีท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ของแฟนๆผู้หญิงที่ยืนมองเขาอยู่ และยองแจเองก็ค่อนข้างที่จะชินแล้วที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาเวลามาตามวง GOT5
“แก แฟนบอยแบมแบมคนนั้นล้อ หล่อ…”
“แต่ฉันว่าเขาน่ารักนะ”
“แฟนบอย GOT5 หน้าตาดีทุกคนเลย”
เสียงพูดคุยของแฟนเกิร์ลในงานไม่ได้ทำให้ยองแจรู้สึกยินดีหรือหวั่นวิตกแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้สิ่งที่ยองแจสนใจมากกว่าก็คงไม่พ้นบรรดาสมาชิก GOT5 ที่นั่งอยู่บนเวทีพร้อมส่งยิ้มให้กับเขา เริ่มจากหัวแถวคนแรกคือ เจบี หรือ อิมแจบอม โดยที่ศิลปินหนุ่มเป็นฝ่ายทักทายก่อน ตามมาด้วยยูคยอมที่นั่งถัดจากเจบี ต่อด้วยมาร์ค แจ็คสัน และแบมแบมตามลำดับ เนื่องจากยองแจเป็นหนึ่งในแฟนคลับที่ตาม GOT5 มาหลายงานพอสมควร กอปรกับที่เขาเป็นแฟนบอยส่วนน้อย และนั่นก็ทำให้สมาชิกวง GOT5 จำเขากันได้ทุกคน
“ยองแจมาอีกแล้ว ขอบคุณนะ” ลีดเดอร์เจบีทักทายพร้อมส่งยิ้มให้
“ครับผม”
“วันนี้เอาขนมอะไรมาให้แบมแบมอีกรึเปล่าฮะ ?” ยูคยอม มักเน่ตัวโตของวงถามพร้อมยิ้มจนตาหยี หากสาวๆที่เป็นเมนของยูคยอมมาเห็นเข้า มีสิทธิ์เป็นลมอย่างแน่นอน
“อื้ม วันนี้พี่เอามาให้ยูคยอมด้วย ไว้ไปขอที่แบมแบมนะ พอดีพี่แพ็คใส่ถุงรวมเอาไว้”
“ขอบคุณนะคร้าบ~”
“ช่วงนี้ยองแจจะสอบไฟนอลใช่มั้ย ยังไงก็ตั้งใจอ่านหนังสือนะ” พี่ใหญ่ของวงอย่าง มาร์ค ก้มหน้าก้มตาเซ็นพร้อมอวยพรให้เขาไปด้วย
“ข…ขอบคุณนะครับ”
“ยองแจ ยองแจ๊ ยองแจ~” แจ็คสัน สมาชิกที่ร่าเริงและอะเลิร์ทที่สุดในวงทักทายเขาด้วยสำเนียงเกาหลีแบบแปลกๆพร้อมฮึมฮำเป็นทำนองในขณะที่กำลังนั่งเซ็นให้พร้อมเขียนข้อความยาวๆด้วยลายมือที่ยากต่อการอ่าน ทำให้ยองแจหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ
“ขอบคุณนะครับแจ็คสันฮยอง”
“ยองแจอา มาแล้วเหรอ อันยอง” และแล้วก็มาถึงคนที่นั่งอยู่ท้ายแถวอย่าง แบมแบม ที่ยิ้มให้เขาพร้อมเป็นฝ่ายทักทายก่อนเช่นกัน
“อ…อันยอง…” และยองแจเองก็มักจะเขินทุกคนเวลาที่ได้อยู่ต่อหน้าแบมแบม เพราะคนตรงหน้าของเขาหน้าตาน่ารัก รวมไปถึงรอยยิ้มที่สดใสราวกับเด็กน้อยนี่เอง ที่เห็นเหตุผลให้ยองแจรักและเอ็นดูคนตรงหน้ามากจนเหมือนน้องชายคนหนึ่ง
“ช่วงนี้จะสอบแล้ว เหนื่อยหน่อยนะ”
“ก็… คงจะใช่” ยองแจว่าพลางหัวเราะเบาๆ
“ขอให้โชคดีนะ อย่าลืมคิดถึงพวกเราด้วยล่ะ”
“อื้ม ขอบคุณนะ แล้วก็… ผมเอาขนมมาฝากด้วย แบ่งเพื่อนๆในวงด้วยนะ” ห่อบรรจุภัณฑ์สีสวยสภาพดีที่ยองแจพยายามทะนุถนอมมาตลอดวันถูกส่งให้กับแบมแบม เหมือนกับทุกๆครั้งที่เขามักจะนำมาให้แบมแบม และเพื่อนๆในวงก็มักจะได้อานิสงค์บ่อยๆ จนกระทั่งช่วงหลังมานี้ เขาจึงจัดมาให้ทุกคนเสียเลย
“ว้าว~ สงสัยเดือนนี้จะอ้วนขึ้นอีกแน่ๆเลย ขอบคุณอีกครั้งนะ กลับบ้านดีๆล่ะ บ๊ายบาย” แบมแบมโบกมือให้แฟนคลับหนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวาน
หลังจากที่ยองแจเดินออกมาจากงานแล้ว ร่างบางก็รีบมุ่งตรงไปยังสถานที่แห่งหนึ่งซึ่งเปรียบเสมือนกับแหล่งกบดานของเขา และเนื่องจากงานแฟนไซน์ของวง GOT5 ในวันนี้จัดขึ้นใกล้กับที่ที่เขากำลังจะไปในตอนนี้ ยองแจจึงคาดเดาได้ทันทีว่า เขาจะต้องรับมือกับศึกหนักเสียแล้ว
และสิ่งที่ยองแจคาดเดาก็ไม่ได้ผิดเพี้ยนไปแม้แต่น้อย เมื่อเขาเดินมาถึงหน้าร้านกาแฟแห่งหนึ่ง และพบว่ามีรองเท้าหลายสิบคู่วางระเกะระกะอยู่หน้าร้าน แต่ยองแจเองก็มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าไปที่ร้านกาแฟแห่งนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ ร่างบางจึงตัดสินใจเดินเข้าไป
ภายในร้านกาแฟที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมๆของเครื่องดื่มหลากชนิดและขนมหวานทั้งหลายชวนน้ำลายสอ ลูกค้าภายในร้านแทบทั้งหมดล้วนมีแต่ผู้หญิง และยองแจเองก็จำหน้าพวกเธอเหล่านั้นได้แทบทั้งสิ้น เพราะเขาเพิ่งจะเห็นพวกเธอจากงานแฟนไซน์ของ GOT5 เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา และหัวข้อการสนทนาของทุกโต๊ะก็ล้วนเกี่ยวกับงานแฟนไซน์เมื่อครู่นี้
‘ ยองแจ มาแล้วเหรอ… ’
เสียงนุ่มๆที่คุ้นหูของยองแจทักขึ้น ร่างโปร่งเพรียวในชุดสบายๆที่คาดผ้ากันเปื้อนไว้ มือทั้งสองข้างที่กำลังถือถาดที่เต็มไปด้วยแก้วกาแฟและจานขนม เอ่ยทักทาย
“หวัดดีจินยอง ยุ่งหน่อยนะ” ยองแจยิ้มให้พร้อมทักทายกลับเป็นเชิงอวยพรเมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขากำลังยุ่งกับงานในตอนนี้
“วันนี้นายมาช้าไป โต๊ะเต็มหมดแล้ว ถ้ายังไงขึ้นไปใช้ Wifi บนห้องนอนของฉันแทนก็ได้”
“อา… รบกวนหน่อยนะ”
จินยองว่าพลางบุ้ยหน้าไปทางบันไดทางขึ้นที่อยู่หลังร้าน ยองแจจึงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วเดินตรงไปด้านหลังร้าน ด้วยความที่สนิทกันมานาน จินยองจึงไว้ใจให้เพื่อนรักขึ้นไปบนห้องนอนได้โดยไม่ได้สงสัยและซักถามอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่ายองแจจะทำอะไร
เหตุผลที่ยองแจต้องมาที่ร้าน (ซึ่งเป็นบ้านควบคู่ไปด้วย) ของจินยองเป็นเพราะว่า ทางบ้านของเขาไม่สนับสนุนให้เขาติดตามศิลปิน และยองแจก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขืน แต่ก็ใช่ว่าจะเลิกเพียงเพราะตามใจบุพการี ดังนั้นร้านของจินยองจึงเปรียบเสมือนบ้านอีกหลังที่ยองแจสามารถเปิดเผยตัวตนความเป็นแฟนคลับได้
ยองแจใช้วิธีการฝากกล้องและสิ่งของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับวง GOT5 ไว้ที่ร้านของจินยอง ไม่ว่าจะเป็นแท่งไฟ อัลบั้ม โดยที่ยองแจจะแวะมาที่ร้านของจินยองในทุกๆวันที่มีงานของวง GOT5 และหลังจบงาน ยองแจกจะกลับมาที่ร้านของจินยองอีกครั้งเพื่อทำอะไรบางอย่าง
Username : 970502_happybam
Password : **********
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
1.7K tweets | 5 following | 27.3K followers
หน้าจอโน้ตบุ๊คที่เชื่อมต่อเข้ากับหน้าหลักของ twitter พร้อมกับที่เมมโมรี่การ์ดจากกล้องตัวเขื่องถูกเสียบเข้ากับโน้ตบุ๊คเพื่อถ่ายข้อมูลจากกล้องลงคอมพิวเตอร์
ความลับที่ยองแจปิดบังทุกคนก็คือ การเป็นมาสเตอร์นิมของบ้านแฟนไซต์ชื่อดังอย่าง HAPPY (BA)MAKER บ้านแฟนไซต์ของแบมแบมที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก ไม่มีใครรู้ตัวตนที่แท้จริงของยองแจ ยกเว้นจินยองซึ่งเป็นเพื่อนสนิท และนั่นก็เป็นการดีที่จะทำให้ยองแจสามารถติดตาม GOT5 ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะคงไม่มีใครคาดคิดอยู่แล้วว่าผู้ชายธรรมดาๆอย่างเขาจะเป็นถึงมาสเตอร์นิมของบ้านแฟนไซต์ชื่อดัง
ร่างบางค่อยๆนั่งเลื่อนดูรูปถ่ายนับพันรูปที่รัวกดชัตเตอร์มาในวันนี้ ก่อนจะคัดเลือกรูปที่ดีออกมาเพียงสิบกว่ารูปเท่านั้น และขั้นตอนต่อไปของการทำงานของมาสเตอร์นิมก็คือ การนำรูปถ่ายที่คัดเลือกแล้วเข้าสู่โปรแกรม Lightroom เพื่อปรับแต่งภาพให้ดูสวยงามและมีมิติมากขึ้น รวมไปถึงติดเครดิตเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของภาพอย่างสมบูรณ์ ก่อนที่ภาพเหล่านั้นจะถูกปล่อยลงในทวิตเตอร์เพื่อให้แฟนๆที่ชื่นชอบแบมๆได้ชม
ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้โลกของแฟนคลับค่อนข้างเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน และยิ่งแวดวงแฟนไซต์อย่างพวกเขาแล้ว ย่อมมีการแข่งขันกันสูงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโมเม้นท์ที่ได้จากศิลปิน หรือกำลังทรัพย์ในการติดตามไปยังที่ต่างๆเพื่อให้ได้รูปมาลง เรียกกระแสจากแฟนคลับ และนำไปสู่การทำสินค้ายอดฮิตอย่าง Photobook หรือ ปฏิทิน ที่แต่ละบ้านมักจะนำรูปที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาเรียกลูกค้า และมันก็ค่อนข้างได้ผลดี
แต่ยองแจกลับต่างจากพวกเขาเหล่านั้นออกไป เขาไม่เคยมีเป้าหมายว่าจะต้องติดตาม GOT5 ทุกงาน เขาจะไปในวันที่มีเวลาและสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย ไม่เคยคิดจะทำ Photobook หรือการค้าใดๆโดยอาศัยชื่อของวง GOT5 เขาก็แค่มีความสุขเวลาที่ได้ถ่ายภาพของแบมแบม ได้เห็นรอยยิ้มของแบมแบม แต่ยองแจก็พึงระลึกอยู่เสมอว่า รอยยิ้มจากหน้ากล้องและหลังกล้องมันย่อมต่างกัน และแน่นอนว่า ยองแจก็ชอบแบมแบมที่ยิ้มให้เขาโดยไม่ต้องมองผ่านกล้องมากกว่า
นั่นล่ะ ความสุขที่แท้จริงของแฟนคลับ…
“ไง… เสร็จแล้วเหรอ ?” จินยองที่ยองแจเดาว่าน่าจะเริ่มว่างงานเพราะลูกค้าทยอยกลับไปหมดแล้วเดินขึ้นมาหายองแจที่นอนแผ่หลาอยู่บนพื้นห้องนอนของจินยอง
“ฮื่อ… วันนี้มีขนมอะไรเหลือบ้าง ?”
“ว่าแล้วต้องถาม ก็เลยเก็บเค้กส้มไว้ให้”
“ขอบใจนะ”
“ค่าขนมล่ะ ?” จินยองทวงค่าสินค้าพร้อมทำท่าแบมือ ยองแจได้แต่เบะปากนิดๆ ก่อนจะส่งกล้องให้จินยองแต่โดยดี
“ไหน ดูหน่อยซิ…” จินยองฮัมเพลงพร้อมยิ้มร่าจนยองแจได้แต่ทำหน้าหมั่นไส้อยู่คนเดียว มือบางค่อยๆเปิดกล้องราคาแพงอย่างชำนาญ ก่อนจะนั่งยิ้มจนตาปิดอยู่หน้ากล้องแล้วหัวเราะคิกคักๆ
“ใช้ได้ป่ะ ?”
“อื้อ พี่เจบีหล่อมากเลย”
ค่าขนมที่ยองแจจ่ายจินยองไม่ใช่เงินสด แต่เป็นรูปถ่ายของเจบี ลีดเดอร์วง GOT5 และท่าทางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ของจินยองเวลาที่ดูรูปของลีดเดอร์วง GOT5 ก็ทำให้ยองแจรู้สึกดีใจที่มีโอกาสทำให้เพื่อนได้ยิ้ม และนั่นก็คือความลับของจินยอง แต่ว่า…
R R R R ~
“ยอโบเซโย…”
จินยองรับสายหลังจากที่โทรศัพท์คู่ใจดังขึ้น ยองแจจึงกลับมาสนใจผลตอบรับจากแฟนคลับแบมแบมในทวิตเตอร์ต่อ ผลตอบรับที่มีแต่คนชื่นชมความน่ารักของแบมแบม รวมไปถึงคำขอบคุณที่ทุกคนส่งมาหาเขา แค่นั้นก็เพียงพอสำหรับยองแจแล้ว
“ยองแจ ไปกินขนมข้างล่างกัน” จินยองหันมาหายองแจหลังคุยโทรศัพท์จบ
“แน่ใจว่าจะให้ฉันไปกินขนม ?” ยองแจเหล่มองเพื่อนรักด้วยสายตาที่รู้ทัน ยิ่งเห็นใบหน้าของจินยองที่มีความสุขจนล้นปรี่ ก็ยิ่งทำให้ยองแจรู้ว่า สิ่งที่เขาคิดมันไม่ผิดแน่นอน
ทั้งสองคนเดินลงมาชั้นล่างของร้านที่ตอนนี้แขวนป้ายปิดร้านไว้เรียบร้อยแล้ว บรรยากาศภายในร้านตอนนี้แตกต่างจากตอนแรกลิบลับ แต่ก็เป็นบรรยากาศแบบที่ยองแจชอบ กาแฟร้อนๆถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับเค้กส้มที่จินยองแช่ไว้ให้ในตู้เย็น ยองแจจึงลงมือรับประทานอย่างไม่เกรงใจ โดยมีจินยองนั่งมองอยู่ตรงกันข้าม
แกร๊ง !
เสียงของประตูที่กระทบกับกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้น เรียกความสนใจจากทั้งสองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะด้านในสุดของร้าน แม้ว่าร้านจะขึ้นป้ายว่าปิดแล้วก็ตาม แต่ลูกค้าคนนี้กลับมีอภิสิทธิ์ในการเข้าออกร้านในช่วงที่ร้านปิด
และถ้าหากลูกค้าคนนี้มาเร็วกว่านี้สักนิด รับรองว่าร้านของจินยองต้องพังอย่างแน่นอน
“พี่เจบี ~” เจ้าของร้านลุกขึ้นทักทายลูกค้าผู้มาใหม่ พร้อมเดินตรงเข้าไปหาคุณลูกค้าระดับวีไอพี
“ไงครับจินยอง ขอโทษที่พี่มาช้านะ”
“ไม่ช้าเลย ผมเพิ่งมานั่งเอง พี่เจบีหิวมั้ย วันนี้ผมเก็บชีสเค้กที่พี่เจบีชอบไว้ให้ด้วยนะ”
บทสนทนาของเพื่อนรักของยองแจที่มีเป็นเจ้าของคาเฟ่กับลูกค้าวีไอพีที่มีสถานะเป็นวงไอดอลที่กำลังมาแรงในตอนนี้ดำเนินไปด้วยบรรยากาศที่ยองแจคิดว่ามันหวานเสียจนเขาอยากจะเฟดตัวออกไปจากร้านเพราะความอิจฉา
และนี่คือความลับของไอดอลหนุ่มลีดเดอร์ของวง GOT5 ที่แอบเดทกับเจ้าของคาเฟ่หน้าหอพักวง GOT5 แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากสมาชิกในวง ผู้จัดการ รวมไปถึงยองแจซึ่งเป็นเพื่อนของจินยอง และพวกเขาก็จะให้ใครรู้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะมันจะมีผลต่อตัวของเจบีและสมาชิกวง GOT5 เป็นอย่างมาก
ยองแจได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่แอบอิจฉานิดๆ จินยองไม่เคยสนใจเรื่องศิลปินและดาราแม้แต่น้อย แต่ในตอนนี้กลับเดทอยู่กับไอดอลเสียเอง แถมยังเป็นไอดอลจากวงที่ยองแจเป็นแฟนคลับเสียด้วย แต่ก็เป็นเพราะยองแจที่ทำให้ทั้งคู่ได้เจอกัน เนื่องจากยองแจมักจะซื้อขนมจากร้านของจินยองไปฝากวง GOT5 จนกระทั่งวันหนึ่งที่เจบีออกปากถามเขาในขณะที่กำลังอยู่ในงานแฟนไซน์ถึงที่มาของขนมที่เขามักจะนำไปให้แบมแบม และนั่นก็ทำให้เจบีได้พบกับจินยอง
เจบีเลือกที่นั่งข้างๆจินยอง ในขณะที่เจ้าของร้านก็เดินไปจัดขนมมาให้ลูกค้าที่มาใหม่ โดยที่ยองแจเองก็ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะเช่นกัน และท่าทางที่ทำตัวไม่ถูกของยองแจก็ทำให้เจบีหลุดขำแทบทุกครั้ง แม้ว่ายองแจกับเจบีจะเจอกันบ่อยก็ตาม ทั้งงานอีเวนท์ของวง GOT5 หรือแม้แต่ที่ร้านของจินยอง
“ยองแจอย่าทำหน้าแบบนั้นเวลาเจอฉันสิ”
“ก็… นั่งร่วมโต๊ะกับไอดอลที่ตัวเองเป็นติ่ง ใครจะไม่เขินกันล่ะครับ”
“ถ้าฉันเป็นแบมแบม ยองแจคงเป็นลมแหงๆเลย”
“มันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ครับ” แน่นอนว่ายองแจไม่ได้ตอบเพื่อประชดเจบี แต่เป็นเพราะเขาก็เคยแอบคิดเล่นๆว่า ถ้าคนที่อยู่แทนที่เจบีเป็นแบมแบม ยองแจอาจจะทำตัวไม่ถูกยิ่งกว่านี้ก็ได้
แต่ยองแจก็รู้ดีว่าคงจะไม่มีวันนั้นอย่างแน่นอน เพราะจินยองเคยบอกเขาว่า สมาชิกในวงส่วนใหญ่จะใช้วิธีโทรศัพท์สั่งขนมที่ร้านของจินยองแล้วให้นำไปส่งหน้าหอพักเสียมากกว่า แต่นั่นก็เพื่อความเป็นส่วนตัวของทุกคนเอง ซึ่งยองแจก็เข้าใจดี จะมีก็แต่ลีดเดอร์ของวงที่ขยันมาหาจินยองที่ร้าน แต่ก็ต้องมาหลังจากปิดร้านแล้วหรือในช่วงที่ไม่มีลูกค้า
และนั่นก็ทำให้ยองแจได้เจอกับเจบีบ่อยจนเริ่มรู้สึกนิสัยใจคอ ซึ่งมันทำให้ยองแจได้รับรู้ความจริงเพิ่มอีกอย่างหนึ่งว่า ตัวตนหน้ากล้องกับหลังกล้องของศิลปินมีส่วนแตกต่างกันอยู่ไม่น้อย อย่างเช่นเจบีที่ถูกวางลุคให้เป็นลีดเดอร์ที่มีความเป็นผู้นำสูง นิ่งขรึม และหล่อ ทว่าเวลาอยู่หลังกล้อง เจบีก็เป็นแค่ผู้ชายธรรมดาๆที่ติดจะไปทางขี้อ้อนและทำตัวน่ารัก จนบางครั้งแม้แต่จินยองเองก็ยังเอือมระอากับพฤติกรรมของแฟนหนุ่ม แต่นอกจากเจบีแล้ว ยองแจก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับตัวตนของสมาชิกคนอื่นเท่าไหร่นัก
“อ้อ ยองแจ แบมแบมกับยูคยอมฝากมาบอกว่า ขนมอร่อยมาก”
“จริงเหรอครับ ?” เมื่อได้ยินชื่อของแบมแบม ยองแจก็มีท่าทีตื่นเต้นเสียจนแจบอมหลุดขำออกมาอีกครั้ง
“นี่ พี่เจบี ขนมพวกนั้นผมเป็นคนทำนะ ทำไมไม่ชมผมบ้าง”
“จินยองอ่ะเหรอ ? มีไว้ให้พี่ชมคนเดียวก็พอแล้ว”
“พี่เจบีบ้า บ้าๆๆๆ”
นั่นล่ะ… ตัวตนที่แท้จริงของลีดเดอร์คนชิคของวง GOT5
ยองแจเหลือบมองนาฬิกาที่แขวนผนัง และพบว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว ซึ่งมันเป็นเวลาที่เขาควรจะกลับบ้าน ร่างบางจึงบอกลาจินยองและเจบีที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับแต่อย่างใด
“จินยอง เดี๋ยวฉันกลับก่อนนะ เดี๋ยวรถเมล์หมด”
“จะกลับแล้วเหรอ ให้ฉันไปส่งที่ป้ายรถเมล์มั้ย ?”
“ไม่เป็นไร ฉันกลับเองดีกว่า ฝากกล้องกับโน้ตบุ๊คไว้เหมือนเดิมนะ” ยองแจปฏิเสธพร้อมชี้ไปบนห้องนอนของจินยองที่มีกล้องกับโน้ตบุ๊คของเขาอยู่
“ฮื่อ กลับดีๆนะ ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกด้วยนะ”
“อื้ม ไปแล้วนะ ผมไปก่อนนะครับเจบีฮยอง” ยองแจบอกลาเพื่อนพร้อมทั้งโค้งศีรษะให้คนที่อายุมากกว่า
“อา… กลับบ้านดีๆ บาย”
เวลาสามทุ่มเศษๆในตอนนี้ทำให้ถนนด้านหน้าร้านของจินยองเงียบสงัด เพราะที่นี่เป็นซอยแคบๆทำให้รถไม่สามารถขับเข้ามาได้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เฉกเช่นเดียวกับวง GOT5 ที่ทางต้นสังกัดก็เลือกให้หอพักของพวกเขาอยู่บริเวณนี้ และด้วยความที่อยู่ใกล้กับร้านของจินยอง ทำให้ยองแจรู้ว่าหอพักของวง GOT5 นั้นอยู่ตรงไหน แต่เขาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่มย่ามบริเวณนั้นหรือใช้สิทธิ์ที่ถือว่ารู้จักกับเจบีเข้าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวของสมาชิกคนอื่นๆ ร่างบางจึงเดินผ่านตึกที่เป็นหอพักของวง GOT5 ไป แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล
ดวงตาเรียวเล็กค่อยๆเหลือบมองไปทางขวามือซึ่งเป็นช่องแคบๆที่คั่นระหว่างหอพักของวง GOT5 และตึกแถวอีกหลังหนึ่ง ยองแจค่อนข้างมั่นใจว่าหูของเขาไม่ฝาด เสียงแปลกๆที่เขาได้ยินจากซอกแคบบริเวณข้างหอพักนั้นกำลังเรียกความสนใจของยองแจได้เป็นอย่างดี
ร่างบางพยายามชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ใจหนึ่งเขาก็กลัวว่าจะเป็นอะไรที่อันตราย แต่อีกใจหนึ่งที่เป็นส่วนของการมองโลกในแง่ร้ายมันทำให้เขาคิดว่า อาจจะมีคนต้องการความช่วยเหลือหรืออะไรก็ตาม และยองแจก็พ่ายแพ้ให้กับเหตุผลในข้อหลัง เจ้าของแก้มกลมสูดหายใจเขาลึกๆเพื่อรวมสติ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปดูบริเวณในซอกหลืบซึ่งเป็นที่มาของเสียง
ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงไฟข้างถนนให้ความสว่าง เมื่อเดินเข้าไปในช่องแคบที่แสงไฟเข้าไม่ถึง ความมืดที่เริ่มมืดมากขึ้นเรื่อยๆกับเสียงแปลกประหลาดที่ดังขึ้นเรื่อยๆยิ่งทำให้หัวใจของยองแจเต้นไม่เป็นจังหวะจนเขาอยากจะเดินถอยกลับ แต่เมื่อเห็นภาพในความมืด ก็ทำให้ยองแจแทบลมจับ
แม้ว่าบรรยากาศรอบข้างตอนนี้จะมืดสนิท แต่เงาตะคุ่มๆของคนสองคนที่ยองแจเห็นในตอนนี้ รวมไปถึงเสียงที่ได้ยินอย่างชัดเจน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนสองคนกำลังทำในสิ่งที่เรียกว่า กิจกาม กันอยู่อย่างแน่นอน ทั้งเสียงครางที่ดังกระเส่าจากผู้หญิง และเสียงไม่พึงประสงค์ต่างๆนานาชวนให้ยองแจแทบจะอาเจียนออกมา
บัดสีชะมัด…
เป็นโชคดีของยองแจที่บุคคลชายหญิงทั้งสองคนที่กำลังปฏิบัติกิจกรรมในที่เปลี่ยวไม่ได้สังเกตเห็น ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความมืดในตอนนี้หรือตรงหน้าของทั้งคู่มันมีอะไรน่าสนใจมากกว่า เขาจึงตัดสินใจค่อยๆเดินย่องถอยกลับออกมาเพื่อหนีไปให้พ้นจากภาพบัดสีบัดเถลิงที่เขากำลังเห็น
โครม !
และดูเหมือนโชคร้ายกำลังจะมาเยือนยองแจเข้าเสียแล้ว…
ยองแจที่ค่อยๆเดินถอยหลังออกมาจนลืมสังเกตด้านหลัง ส่งผลให้เขาเดินชนถังขยะโลหะที่ตั้งอยู่เข้าอย่างจัง และเสียงที่ดังขนาดนั้นก็ทำให้บุคคลทั้งสองคนในความมืดต้องหยุดการปฏิบัติกิจกรรมอย่างว่า พร้อมสายตาสองคู่ที่จับจ้องมายังต้นเสียง
อา… ให้ตายเถอะ…
ยองแจรีบหันหลังกลับ ก่อนจะสาวเท้าแล้วออกตัววิ่งอย่างไว แต่เขากลับช้ากว่าใครอีกคนที่วิ่งมากระชากเสื้อของเขาเอาไว้เสียก่อน
“หยุดเดี๋ยวนี้…” เสียงทุ้มต่ำจากคนข้างหลังดังขึ้น แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ตวาดหรือส่งเสียงดัง แต่น้ำเสียงเรียบๆที่ฉาบไปด้วยความเย็นชากลับทำให้ยองแจรู้สึกหวาดกลัวเสียมากกว่าโดนตวาดหรือตะคอกใส่เสียอีก
“ผ…ผมแค่ผ่านมา… ปล่อยผมเถอะครับ…” ยองแจพยายามร้องขอคู่กรณีที่จับคอเสื้อของเขาจากด้านหลังแน่น
“นี่มันอะไรกันคะ ?” น้ำเสียงที่ฟังดูตื่นตระหนกของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น
“ฮเยริ คุณกลับไปก่อน”
ฮเยริ…
รู้สึกคุ้นชื่อนี้แบบแปลกๆ…
หลังจากได้ยินชื่อของฝ่ายหญิงก็ทำให้ยองแจตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่แล้วร่างบางก็ต้องถึงกับหน้าชาเมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร
หญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ หน้าตาสะสวยกับผมสีทองรับกับผิวขาวเนียนผ่อง ริมฝีปากชมพูระเรื่อกับดวงตากลมโตที่ทำให้ผู้ชายอย่างเขาถึงกับหัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ แม้ว่าสภาพของเจ้าหล่อนในตอนนี้จะไม่น่ามองเท่าไหร่นัก เดรสสายเดี่ยวสีดำที่หลุดลุ่ยจากกิจกรรมที่เจ้าหล่อนเพิ่งปฏิบัติไปกับเนื้อตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่สิ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้น ก็คงจะไม่พ้นสถานะของผู้หญิงคนนี้ที่เป็นถึงดาราชื่อดังที่กำลังมีผลงานละครและภาพยนตร์ รวมไปถึงโฆษณาหลายชิ้น ด้วยภาพลักษณ์ใสซื่อราวกับสาวแรกแย้มของเธอที่เป็นจุดขาย และนั่นก็ทำให้ยองแจถึงกับตกใจกับสิ่งที่เขาเจอในตอนนี้ ซึ่งในขัดกับภาพลักษณ์ของเธอโดยสิ้นเชิง
“อ…อื้อ !” ยังไม่ทันที่ยองแจจะพูดอะไรออกมา ริมฝีปากบางก็ถูกมือของฝ่ายชายที่อยู่ด้านหลังใช้มือปิดไว้แน่นเสียจนเขาหายใจแทบไม่ออก
“ฮเยริ ผมบอกให้คุณกลับไปก่อน”
“คุณคิดว่าฉันจะกลับไปอย่างสบายใจหรือไงกัน มีคนอื่นมาเห็นเข้าแบบนี้ … จบกัน อนาคตฉันพังแน่…” ท่าทางที่ลุกลี้ลุกลนของหญิงสาวตรงหน้าทำให้ฝ่ายชายที่เพิ่งร่วมรักกับเจ้าหล่อนไปเมื่อครู่ถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“เดี๋ยวผมจัดการให้เองน่า คุณกลับไปเถอะ แล้วก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก ขอบคุณสำหรับคืนนี้”
“แต่…”
“เออน่ะ กะอีแค่เด็กคนเดียวที่มาเห็น แต่ถ้าเธอยังไม่ไสหัวกลับไปตอนนี้ คนอื่นจะมาเห็นมากกว่านี้แน่ กลับไปซะ !!” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่กดลงพูดกับหญิงสาวราวกับไม่แยแสหรือสนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ มันฟังดูแย่จนยองแจรู้สึกอยากเห็นคนพูดประโยคที่ฟังดูเลวร้ายกับคู่ขาหมาดๆเสียเหลือเกิน
ดาราสาวคนดังได้แต่ยืนทำท่าหัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างขัดใจที่ถูกขัด แต่เจ้าหล่อนก็พยายามจัดแจงเสื้อผ้าและทรงผมก่อนจะเดินออกไปจากซอยแต่โดยดี ตอนนี้จึงเหลือเพียงแค่ยองแจกับชายปริศนาที่ใช้มือปิดปากของเขาเอาไว้ ส่วนแขนอีกข้างก็โอบรัดรอบเอวของเขาเอาไว้ แม้ว่าเขาจะพยายามดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่สามารถสู้แรงของอีกคนได้แม้แต่น้อย
“อื้อ !”
“หยุดดิ้นสักทีสิ ยองแจ…”
ตุ้บ !
ชื่อของเขาที่ถูกเรียกผ่านน้ำเสียงทุ้มต่ำทำให้ร่างบางนิ่งชะงักอย่างตกใจ ก่อนที่ยองแจจะสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกบางอย่างที่หน้าท้องอย่างแรงอยู่สองสามครั้ง ดวงตาเล็กเรียวที่เริ่มพร่ามัวพยายามเหลือบมองใบหน้าคนที่ใช้กำลังกับเขา ก่อนที่ทุกอย่างตรงหน้าจะดับวูบไป
.
.
.
แสงไฟที่ลอดเข้ามาในม่านตายังคงพร่ามัว ดวงตาคู่เล็กกะพริบถี่ๆเพื่อปรับให้สายตากลับเป็นปกติ เพดานห้องสีขาวนวลที่เขารู้สึกไม่คุ้นตากับผ้าปูเตียงที่ทำให้เขาค่อนข้างมั่นใจว่า ที่นี่ไม่ใช่บ้านของเขาอย่างแน่นอน แต่นั่นก็ไม่ทำให้ยองรู้สึกตกใจเท่ากับสิ่งที่เขาสัมผัสได้เป็นลำดับต่อมา
ข้อมือขาวที่ถูกมัดรวบไว้แน่นด้วยเนคไทด์เส้นหนึ่ง ริมฝีปากเรียวบางที่ถูกปิดไว้ด้วยเทปแลคซีน และซ้ำร้ายไปกว่านั้น ข้อเท้าของเขาข้างหนึ่งถูกมัดไว้กับปลายเตียง
“อื้อ !!!” ร่างบางพยายามส่งเสียงในขณะที่พยายามขยับข้อมือเพื่อให้เนคไทด์ที่มัดข้อมือของเขาไว้มันหลวม แต่ดูเหมือนเขาจะประเมินพลาดไป เพราะมันถูกมัดไว้แน่นเสียจนเขารู้สึกเจ็บทุกครั้งเมื่อขยับ แต่คนที่นอนอยู่บนเตียงก็ไม่ยอมแพ้ พยายามดิ้นไปเรื่อยๆจนข้อมือขาวเริ่มขึ้นสีแดงช้ำ
เกิดอะไรขึ้น…
นั่นคือคำถามแรกที่แล่นเข้ามาในหัวของยองแจ อีกทั้งอาการที่เจ็บจนจุกบริเวณหน้าท้องยิ่งทำให้ยองแจไม่เข้าในสิ่งที่เกิดขึ้น เขาจำได้ว่าภาพสุดท้ายที่เขาเห็นคือใบหน้าลางๆของผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักชื่อของเขา ก่อนที่เขาจะไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย
‘ ตื่นแล้วก็ทำตัววุ่นวายเชียวนะ ’
เสียงทักทายของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากประตูห้องน้ำ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินออกมา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ยองแจแทบจะสิ้นสติอีกครั้ง
เจ้าของใบหน้าหวานที่ใครๆต่างก็ตกหลุมรัก คนที่เป็นเจ้าของรอยยิ้มหวานที่ยองแจได้รับมันอยู่บ่อยๆ และเป็นเจ้าของรอยยิ้มที่ยองแจตกหลุมรัก คนที่มักจะอ้อนให้เขาซื้อขนมให้บ่อยๆ และเป็นคนที่เขาเพิ่งเจอเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมานี้
แบมแบม…
แบมแบมคนนั้น…
“อึก…”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ ? ตกใจที่คนๆนั้นเป็นฉันเหรอ ?”
“…”
ใบหน้าขาวเจ้าของแก้มกลมป่องซีดเผือดไปถนัดตาเมื่อเห็นคนที่กำลังเดินมาตรงหน้าของเขา ร่างกายของเขาเริ่มสั่นเทิ้มขึ้นมาจนควบคุมไม่อยู่เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เขาคุ้นเคย หากแต่รอยยิ้มที่เคยดูหวานในตอนนั้นกลับกลายเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ยองแจรู้สึกหวาดกลัวในตอนนี้ ยิ่งเมื่อใบหน้าหวานของอีกคนเลื่อนเข้ามาอยู่ใกล้ๆพร้อมกับมือที่สากเล็กน้อยค่อยๆเกลี่ยที่แก้มขาวใสเบาๆ กลับยิ่งทำให้ยองแจรู้สึกกลัวมากขึ้นไปอีก
“อือ…” ยองแจพยายามขยับตัวหนี แต่ดูเหมือนว่าเชือกที่ข้อเท้าจะทำให้เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้
“โชคดีนะเนี่ยที่คนที่มาเห็นฉันกับฮเยริเป็นยองแจ…”
“…”
“ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงจัดการได้ยากกว่านี้แน่ๆเลย” คำพูดด้วยน้ำเสียงปกติของบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินในดวงใจที่เขารักนักหนาทำให้ยองแจรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเข้าอย่างจัง
“อึก…”
“ก็อย่างที่เห็นนั่นล่ะ ฉันกับฮเยริ ยองแจไม่ได้ตาฝาดหรอก”
“…” ดวงตาเรียวเริ่มมีน้ำใสๆคลอที่เบ้าตา ไม่ใช่เพราะยองแจหึงหวงหรือโกรธเคืองในคำพูดของแบมแบม แต่เขากลับรู้สึกผิดหวัง ผิดหวังที่เขารักคนๆนี้ในฐานะศิลปินและรู้สึกกลัวคนตรงหน้าจนอยากจะหนี แต่สิ่งพันธนาการเขาเอาไว้กลับทำให้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะยองแจ หึงฉันหรือไง ฮ่าๆ” บุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นที่รักของแฟนคลับในตอนนี้กำลังใช้มือจับกลุ่มผมนุ่มของร่างบางที่พยายามดิ้นสู้
“อื้อ !!!!” เจ้าของศีรษะเล็กสะบัดหนี แต่กลับถูกอีกคนใช้มือกระชากผมเอาไว้จนเขารู้สึกเจ็บไปทั้งศีรษะ ใบหน้าของร่างบางที่แสดงความเจ็บปวดจนบิดเบี้ยวไม่ได้ทำให้อีกคนรู้สึกเห็นใจเขาแม้แต่น้อย
“อย่าทำหน้าเหมือนผิดหวังสิยองแจ วงการบันเทิงมันก็เป็นแบบนี้แหละ ถูกใจใครก็เคลม แล้วฉันก็เป็นพวกชอบนับแต้มไปด้วย อยากรู้มั้ยว่าตอนนี้ฉันเก็บได้กี่แต้มแล้ว ฉันว่าแฟนคลับตัวยงของฉันอย่างยองแจก็น่าจะอยากรู้นะ”
“…”
“อยากรู้มั้ย ฉันบอกยองแจได้นะ ในฐานะแฟนคลับที่น่ารักของฉันไง”
วินาทีนี้ยองแจไม่ได้ฟังในสิ่งที่แบมแบมพูดแม้แต่น้อย เขาไม่อยากเชื่อหูตัวเองว่า คำพูดที่ฟังดูสกปรกและน่ารังเกียจจะหลุดออกมาจากปากของคนที่เขารักมากและยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เจอ ร่างบางพยายามดิ้นสู้กับแรงของอีกคน
“พูดตามตรงเลยนะ ฉันก็ไม่ได้ชอบนักหรอกที่ค่ายสร้างอิมเมจให้ฉันดูน่ารัก ดูเด็ก ยังไงฉันก็เป็นผู้ชายคนนึงอยู่ดี มีแต่พวกแฟนคลับนั่นแหละที่ติดภาพลักษณ์บ้าบอพวกนั้น แต่ถ้ามันทำให้ฉันอยู่ในวงการต่อไปได้ จะวิธีไหนฉันก็ไม่เกี่ยงหรอก”
“…”
“และด้วยวิธีไหนที่ฉันไม่เกี่ยง ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้ยองแจต้องมาอยู่ที่นี่ไงล่ะ … ยองแจดันมาเห็นภาพที่ไม่ควรเห็นแล้ว ฉันคงปล่อยยองแจกลับไปไม่ได้หรอกนะ”
เมื่อพูดจบ ไอดอลหนุ่มจึงผลักคนที่ถูกพันธนาการเอาไว้ลงไปนอนบนเตียงอีกครั้ง ตามด้วยร่างโปร่งเพรียวที่ลงไปนอนคร่อมอีกทีหนึ่ง ก่อนที่จะกระชากเทปแล็คซีนที่ปิดปากบางเอาไว้อย่างแรงจนบริเวณรอบริมฝีปากอิ่มของอีกคนขี้นสีแดง
“โอ๊ย !!” ยองแจร้องลั่นหลังจากที่ถูกดึงเทปปิดปากออก
“…”
“บ…แบมแบม… ปล่อยผมไปเถอะนะ” ร่างบางพยายามขอร้องอีกคนอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อเห็นว่าแววตาของคนตรงหน้าเปลี่ยนไปราวกับคนละคน
“ฉันจะเชื่อยองแจได้แค่ไหนกันล่ะ ?”
“ผมจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร จะไม่บอกใครเลย ผมสัญญานะแบมแบม ปล่อยผมไปเถอะนะ” ยองแจพูดซ้ำไปซ้ำมาประหนึ่งคนเสียสติเพราะความหวาดกลัว น้ำตาที่ไหลลงมาไม่ขาดสายกับร่างกายที่สั่นเทิ้มบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่า ตอนนี้ยองแจกลัวคนตรงหน้าขนาดไหน
ยองแจรู้ดีว่าวงการบันเทิงมันค่อนข้างเน่าเฟะและเละเทะขนาดไหน และจากกรณีของเจบีก็ทำให้ยองแจได้รับรู้ว่า ศิลปินมีภาพลักษณ์หน้ากล้องและหลังกล้องแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ยองแจก็ไม่เคยคาดคิดว่า ศิลปินที่เขารักก็จะเป็นแบบนี้เช่นกัน
“ขอโทษทีนะยองแจ แต่ฉันไม่ใช่คนที่เชื่อใจใครง่ายๆซะด้วยสิ” น้ำเสียงเย็นเฉียบของไอดอลหนุ่มทำให้ยองแจยิ่งกลัวมากขึ้นไปอีก
“ผม…ผมไม่พูด… ผมจะไม่พูด แบมแบม ผมข… อื้อ !”
[CUT SCENE : อยู่บนไบโอทวิต จิ้ม]
.
.
.
ดวงตาเล็กเรียวค่อยๆลืมตาขึ้น แสงไฟที่ยังคงสว่างจ้าภายในห้องชุด รวมไปถึงอาการที่เจ็บช้ำไปทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ข้อมือ หน้าท้อง ข้อเท้า รวมไปถึงช่วงเอว ทำให้ยองแจรู้ว่า เหตุการณ์ทั้งหมดไม่ใช่ความฝัน และยิ่งเมื่อเห็นอีกฝ่ายที่เป็นอดีตนักร้องที่เขาเคยชื่นชอบกำลังนั่งมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าทุกอย่างเมื่อคืนนี้คือเรื่องจริง
“…” น้ำตาของร่างบางค่อยๆไหลลงมาไม่ขาดสาย ความเจ็บปวดทั้งทางกายและทางใจมันทำให้ยองแจรู้สึกอยากจะหายไปจากโลกใบนี้
“ตื่นแล้วเหรอ ?”
“…”
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ !”
“ผมพูดอะไรได้ด้วยเหรอ ?”
ยองแจพยายามถอยหนีเมื่อเห็นว่าอีกคนละทิ้งจอแล็ปท็อปแล้วเดินตรงเข้ามาหาเขาที่เตียง ใบหน้าหวานที่ใครๆต่างก็บอกว่าน่ารัก สำหรับยองแจในตอนนี้ มันไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไป ทั้งรอยยิ้มและแววตาที่ซ่อนอยู่ในใบหน้าของคนๆนั้น เป็นเหมือนมีดที่กำลังกรีดแทงเขาจนบาดเจ็บสาหัสไปทั้งตัว
“รู้อะไรมั้ยยองแจ…”
“…”
“วิธีที่จะทำให้ความลับยังคงเป็นความลับอยู่ได้ มันคืออะไร ?”
ร่างโปร่งถามขึ้น ก่อนจะเดินย้อนกลับไปหยิบแล็ปท็อปมาวางบนเตียง หน้าจอแล็ปแท็ปที่ถูกเชื่อมต่อเข้าเว็บไซต์เว็บหนึ่ง ยองแจพยายามเพ่งมองไปที่หน้าจอและพบว่าสิ่งที่กำลังเล่นอยู่บนหน้าจอคือวิดิโอตัวหนึ่ง และวิดิโอนั้นก็ทำให้ยองแจแทบสิ้นสติ
วิดิโอนั้นถูกถ่ายจากกล้องวงจรปิดในห้องพักแห่งนี้ และแน่นอนว่าคนในวิดิโอก็คือตัวของเขาเองที่กำลังกลายเป็นนางเอกหนังผู้ใหญ่ โดยที่เห็นเพียงแค่แผ่นหลังของอีกฝ่าย เรื่องราวเมื่อคืนนี้ถูกบันทึกเอาไว้โดยที่เขาไม่รู้ตัว และถูกตัดต่อให้เห็นเพียงแค่หน้าของเขาเท่านั้น
“ไม่จริง…”
“หนังเรื่องนี้สนุกดี นายว่…”
“แกมันเลว ไอ้เวร !!!!” ยองแจกรีดร้องพร้อมทั้งทุบตีแบมแบมไม่ยั้งมือ แต่กลับถูกอีกฝ่ายรวบข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยมือเปล่า
“อยากจะด่าอะไรฉันก็เชิญเลย เวลาของนายเหลือไม่มากแล้วล่ะ”
“หมายความว่ายังไง !?!”
“ตอนนี้คลิปนายกำลังดังในอินเทอร์เน็ตเลยล่ะ ป่านนี้…”
R R R R ~
สายเข้า : ออมม่า
“ดูเหมือนที่บ้านจะโทรมาใช่มั้ย…”
ยองแจถึงกับหน้าถอดสีเมื่อเห็นสายเรียกเข้า มือบางที่กำลังโทรศัพท์ไว้กำลังสั่นเทาจนเหงื่อซึมเต็มฝ่ามือ แต่ร่างบางก็พยายามทำใจเข้าสู้และคิดแง่ดีว่าทางบ้านคงจะติดต่อหาเขาเพราะเขาหายตัวไปทั้งคืน
“ยอโบเซโย…”
[ยองแจ นี่แม่เองนะ…]
“ครับ ผมขอโทษที่เมื่อคืน…”
[แกหายไปไหนมาเมื่อคืนนี้ ?]
“ผม… ผมค้างอยู่ที่บ้านจินยองครับ”
[โกหก แม่โทรเช็คกับจินยองแล้ว จินยองบอกว่าแกออกจากร้านตั้งแต่สามทุ่มแล้ว]
“แม่…”
[แกอยู่กับใคร ?]
“คือ…”
[ฉันถามว่าแกอยู่กับใคร !!!]
“แม่… ฟังผมก่อนได้มั้ย ?” น้ำเสียงสั่นเครือของยองแจทำให้แบมแบมที่นั่งอยู่ข้างๆยิ้มกริ่มออกมา
[ที่ฉันโทรมาหาแก เพราะฉันมีเรื่องจะถาม]
“ร…เรื่องอะ…”
[คนในคลิปที่ว่อนอินเทอร์เน็ตอยู่ตอนนี้ ใช่แกรึเปล่ายองแจ ?]
“…”
คำถามของผู้เป็นแม่ทำให้ยองแจถึงกับไปไม่ถูก ดวงตาเล็กเรียวมองหน้าจอแล็ปท็อปที่กำลังเล่นวิดิโอนั้นซ้ำไปซ้ำมา เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างจุกเข้าที่หน้าอกของยองแจจนเขาได้แต่นิ่งไป หัวสมองและร่างกายของยองแจรู้สึกชาจนเขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้
[แม่ถามว่าใช่แกรึเปล่ายองแจ !]
“แม่…ผม… ผมขอโทษ…”
[…]
“แม่ แม่อย่าเงียบสิ แม่…”
[ต่อไปนี้แกอย่าเสนอหน้ามาให้ฉันเห็นอีก…]
“แม่ !! เดี๋ยวก่อ…”
ยังไม่ทันที่ยองแจจะพูดจบ แม่ของเขาก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้งไป ทิ้งไว้เพียงยองแจที่นั่งสติหลุดลอยเพราะความช็อกจากหลายๆเรื่องที่ต่างประดังประเดเข้ามาพร้อมกัน
“แม่คงภูมิใจน่าดูเลยใช่มั้ยล่ะ มีลูกชายทั้งที ดันกลายมาเป็นนางเอกเอวีไปซะได้”
“…”
“ฉันไปนะ ถึงเวลาทำงานแล้ว ส่วนค่าห้องฉันจ่ายแล้ว อยากจะออกเมื่อไหร่ก็เรื่องของนาย … ถ้านายกล้าออกไปล่ะก็นะ…”
แบมแบมหัวเราะร่วนก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่หันมาแลเหลียวคนที่กำลังนั่งโกรธจนตัวสั่นอยู่บนเตียง มือบางจิกลงผ้าปูเตียงเพื่อระบายความโกรธที่กำลังพุ่งทะลุถึงขีดสุด แล็ปท็อปยังคงถูกวางอยู่ที่เดิม พร้อมกับวิดิโอที่เล่นซ้ำไปซ้ำมาไม่จบไม่สิ้น ยองแจจึงตัดสินใจคว้าแล็ปท็อปขึ้นมา และดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นคอมเม้นท์นับพันที่อยู่ใต้คลิปนั้น
‘ ฉันตามมาจากทวิต นั่นใช่แฟนบอยวง GOT5 รึเปล่า ? ’
‘ สรุปว่ามีรสนิยมแบบนี้จริงๆสินะ ’
‘ ซี้ดดดด น่ารักใช้ได้ว่ะ ’
และสารพัดคอมเม้นท์ที่ทำให้ยองแจบันดาลโทสะ แล็ปท็อปราคาแพงถูกขว้างทิ้งจนแตกกระจาย เสียงกรีดร้องอย่างเสียสติของร่างบางที่ระบายความอัดอั้นพรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่ขาดสาย ริมฝีปากที่ค่อยๆเม้มเข้าหากันพร้อมกับที่ฟันคมค่อยๆกัดลงไปบนเนื้อนุ่มบนปากเพื่อสงบสติอารมณ์
เสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นถูกหยิบขึ้นมาสวมใส่แบบลวกๆ ก่อนที่ยองแจจะรีบเดินลงมาจากโรงแรมเพื่อกลับไปที่บ้าน และยองแจก็ได้เข้าสู่โลกของฝันร้ายอีกครั้ง หลังจากที่เขาลงมาอยู่ชั้นล่างหน้าโรงแรม
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตึก JYP ซึ่งเป็นต้นสังกัดของวง GOT5 ทำให้มีแฟนคลับมานั่งรออยู่บริเวณนี้เป็นจำนวนมาก และแน่นอนว่าทันทีที่ยองแจเดินออกมา เขาก็ตกเป็นเป้าสายตาของแฟนคลับทุกคนในบริเวณนั้นเช่นเคย
เพียงแต่ครั้งนี้ … มุมมองของทุกคนที่มีแต่เขาไม่เหมือนเดิม
‘ นั่นใช่แฟนบอยที่อยู่ในคลิปนั้นรึเปล่า ? ’
‘ หน้าเป๊ะขนาดนั้น ก็คงใช่อยู่แล้วล่ะ ’
‘ ใช่แน่ๆ ฉันจำได้ เมื่อวานฉันเห็นเขาที่งานแฟนไซน์ของ GOT5 ด้วย ’
เสียงซุบซิบที่ดังพอที่จะทำให้ยองแจได้ยิน ร่างบางรีบสาวเท้าเดินก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งเพื่อหนีออกมาจากที่ตรงนั้นให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ต้องต่อสู้กับสายตาดูแคลนที่ได้รับจากคนรอบข้างในบริเวณนั้น แม้ว่าเจ้าหล่อนพวกนั้นจะชื่นชอบโมเม้นท์คู่เซอร์วิสของศิลปินขนาดไหนก็ตาม แต่ในสังคมของประเทศเกาหลี รักร่วมเพศก็ยังเป็นเรื่องต้องห้ามอยู่ดี
มือเรียวพยายามต่อสายโทรศัพท์หาบุคคลที่เขาต้องการพึ่งพิงที่สุดในตอนนี้ บุคคลที่เพิ่งประกาศตัดขาดกับเขา แต่ยองแจก็ยังไม่ลดละความพยายาม
[ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้]
“…”
[ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่าน…]
“ม…แม่… ผมอยากคุยกับแม่จริงๆ แม่รับสายผมเถอะ” น้ำเสียงสั่นเครือพูดใส่โทรศัพท์ แม้ยองแจจะรู้ดีว่าเสียงที่เขากำลังพูดส่งไปไม่ถึงคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “แม่” ของเขาก็ตาม
[ขอโทษค่ะ…]
“…”
และแล้วยองแจก็ต้องยอมแพ้ โทรศัพท์เครื่องหรูค่อยๆลดต่ำลงมา ร่างกายที่ไร้เรี่ยวแรงค่อยๆเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สติที่เริ่มหลุดลอยทำให้ยองแจไม่ได้สนใจสายตาของทุกคนรอบข้างที่พากันมองเขาอย่างรังเกียจ สองขาเรียวหอบร่างของยองแจมาหยุดอยู่ที่หนึ่งที่ห่างไกลจากผู้คน ร่างบางค่อยๆทรุดตัวลงนั่งกับพื้น ปล่อยให้เวลาไหลผ่านไปเรื่อยๆ ดวงตาคู่สวยที่บวมช้ำเพราะผ่านการร้องไห้มาหลายครั้งทอดมองภาพตรงหน้าอย่างไร้จุดหมาย
R R R R ~
สายเข้า : จินยอง
ยองแจเหลือบมองอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็เลือกที่จะไม่รับสายแม้ว่าคนที่โทรมาจะเป็นเพื่อนรักของเขาก็ตาม เสียงริงโทนที่ยองแจเลือกใช้เพลงของวง GOT5 ยังคงดังไปเรื่อยๆ ปากของร่างบางขยับไปตามจังหวะเพลง เนื้อเพลงที่เขาสามารถร้องได้ถูกต้องทุกคำ รอยยิ้มค่อยๆปรากฏขึ้นมาบนหน้าหวาน ภาพของวง GOT5 ที่เขาเพิ่งเจอเมื่อวานย้อนกลับเข้ามาในหัว
เขามีความสุขในจุดยืนนั้น…
เขามีความสุขในการเป็นแฟนคลับ…
เขารักในสิ่งที่ GOT5 เป็น…
너는 평범한 것 같지만특별하다니까
นอนึน พยองบอมฮัน กอท กัทจีมัน ทึกบยอลฮา ดานีกา
คุณดูเหมือนคนทั่วไป แต่ว่าคุณพิเศษ
아는 사람 눈에만보이는 보석처럼
อานึน ซารัม นุนเอมัน โบอีนึน โบซอกชอรอม
เหมือนอัญมณีที่คนที่รู้เกี่ยวกับมันเท่านั้นที่จะมองเห็น
เนื้อเพลงที่ถูกพึมพำออกมาโดยยองแจคลอไปกับเสียงริงโทนที่เขาตั้งเอาไว้ ความสุขและความเสียใจที่ตีรวนกันจนปนเปไปหมดในหัวของยองแจ เขามีความสุขเพราะรอยยิ้มของแบมแบม และเขาก็กำลังเศร้า เพราะรอยยิ้มของแบมแบมเช่นกัน
เขาไม่เคยคิดว่ารอยยิ้มที่เขาหลงรักมาตลอดจะทำให้ชีวิตของเขาพังไม่เป็นท่าได้ภายในวันเดียว
ติ๊ด !
You got a new message.
From : จินยอง
ยองแจ !! หายหัวไปไหนของนายเนี่ย ฉันเป็นห่วงจนจะบ้าอยู่แล้ว เมื่อคืนแม่นายโทรมาหาฉัน เขาเป็นห่วงนายมากนะ ถ้าเห็นข้อความนี้โทรกลับมาหาฉันด้วย
ข้อความสั้นๆจากเพื่อนสนิททำให้ยองแจร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ยองแจก็เลือกที่จะไม่โทรหาอีกคน ดวงตาของร่างบางยังคงมองเหม่อไปยังด้านหน้า ก่อนที่จะดึงสติกลับมาได้ แววตาเหม่อลอยในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนไป ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง
ยองแจค่อยๆลุกขึ้นเดินตรงไปด้านหน้า ก่อนจะหยุดเดินหลังเดินได้เพียงไม่กี่ก้าว มือบางค่อยๆกดโทรศัพท์หาคนที่เพิ่งส่งข้อความมาหาเขา และทันทีที่ได้ยินเสียงรับโทรศัพท์จากคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนสนิท ก็ทำให้ยองแจกลั้นน้ำตาไม่อยู่อีกครั้ง
[ยองแจ !!! นายอยู่ที่ไหน !]
“ฉัน… ไม่รู้…” ยองแจไม่ได้โกหก เพราะตอนนี้เขาเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยู่ที่ไหน เขารู้แค่ว่าที่ตรงหน้ามันโล่งและปลอดผู้คนจนเขารู้สึกสบายใจที่ได้อยู่ที่นี่ในตอนนี้
[ยองแจ ฉันไม่รู้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่นายไม่ควรหายไปแบบนี้]
“…”
[เรื่องคลิปนั่นใช่มั้ย… ยองแจ นายอย่าเงียบไปแบบนี้ ฉันใจคอไม่ดีจริงๆ]
“ฮื่อ…”
[ตอนนี้นายกลับมาหาฉันที่ร้านได้มั้ย ทุกคนเป็นห่วงนายจริงๆ ทั้งแม่นาย ทั้งฉัน พี่เจบีก็ด้วย แล้วแบมแบมก็รู้เรื่องที่นายหายตัวไปแล้ว เขาเป็นห่วงนายมากนะ แล้ว…]
ประโยคที่มีชื่อของคนๆนั้นคือสิ่งสุดท้ายที่ยองแจได้ยิน ก่อนที่เขาจะไม่ได้ฟังจินยองพูดอีกเลย มือบางที่กำกางเกงไว้แน่นกับริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เพื่อนได้ยิน เรื่องเลวร้ายเมื่อคืนค่อยๆกลับเข้ามาในหัวของยองแจอีกครั้ง ทั้งการกระทำที่ป่าเถื่อนและคำพูดที่สกปรกที่เขาได้ยินเมื่อคืน มันตรงข้ามกับสิ่งที่จินยองพูดให้เขาฟังในตอนนี้
“ฉันสบายดี ไม่ต้องห่วง…”
[งั้นก็รีบมาหาฉันที่ร้านเดี๋ยวนี้เลย !]
“อือ…”
ยองแจตอบรับเบาๆ ก่อนจะเดินตรงไปข้างหน้าต่อ ในขณะที่มือยังคงถือสายที่คุยกับจินยองเอาไว้ เสียงบ่นจากในสายของจินยองทำให้ยองแจยิ้มออกมาหลังจากที่นั่งซึมเศร้ามาพักใหญ่ จินยองทำให้เขากลายเป็นคนโชคดีที่สุดที่มีเพื่อนที่คอยเป็นห่วงเขา
“จินยอง ขอบคุณที่เป็นห่วงฉันนะ…”
[ก็ต้องห่วงอยู่แล้วสิ ยองแจเป็นเพื่อนของฉันนะ]
“ฉันน่ะ รักจินยองมากๆเลย…”
[นั่นมันก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ยองแจ… นายโอเคใช่มั้ย ?]
“แล้วฉันก็รักวง GOT5 มากๆด้วย”
[ฉันรู้อยู่แล้วน่า นายเป็นถึงเจ้าของแฟนไซต์ HAPPY (BA)MAKER เลยนะ]
“ฉัน…”
[…]
[ยองแจ ตอนนี้นายอยู่ที่ไหนแล้ว…]
“ฉัน… กำลังไป…”
และนั่นก็คือคำตอบสุดท้ายที่ทั้งคู่ต่างได้ยินกันและกัน
สมาร์ทโฟนร่วงหล่นจากมือของยองแจ พร้อมๆกับที่ร่างของยองแจร่วงหล่นจากตึกสูง 4 ชั้นที่เขานั่งพักใจมาตลอดสองชั่วโมง ลมที่พัดตีใบหน้าคือความรู้สึกสุดท้ายที่ยองแจสัมผัสได้ ก่อนที่ยองแจจะมองไม่เห็นอะไรอีกเลย
.
.
.
Username : 970502_happybam
Password : **********
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
1.7K tweets | 5 following | 27.3K followers
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
สวัสดีครับ ผมคือเพื่อนของมาสเตอร์นิมบ้านหลังนี้ ผมมีเรื่องจะมาแจ้งให้ทุกคนทราบว่า มาสเตอร์นิมของบ้านหลังนี้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อสองวันก่อน (1)
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
ผมไม่ทราบถึงสาเหตุและที่มาที่ไป แต่ผมอยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้บอกให้ทุกคนรับรู้ว่า ถึงแม้มาสเตอร์นิมของบ้านหลังนี้จะไม่อยู่แล้ว แต่เขาจะคอยเฝ้ามองแบมแบมตลอดไป (2)
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
และผมก็อยากจะใช้พื้นที่นี้ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามบ้าน HAPPY (BA)MAKER มาตลอด และผมก็ขอขอบคุณที่พวกคุณทุกคนที่มอบรอยยิ้มให้กับเพื่อนของผม (3)
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
สุดท้ายนี้ ผมคงต้องขอขอบคุณวง GOT5 ที่ทำให้ยองแจเพื่อนรักของผมมีความสุข โดยเฉพาะแบมแบมที่ทำให้ยองแจยิ้มได้เสมอ (4)
HAPPY (BA)MAKER (@970502_happybam)
ผมหวังว่าบ้านหลังนี้จะยังคงอยู่ในใจของแบมแบมและแฟนคลับแบมแบมทุกคน ขอบคุณจริงๆครับ (END)
คอมพิวเตอร์ที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาที่หยดลงมาถูกปิดลง พร้อมกับเสียงสะอื้นของใครบางคนที่นั่งอยู่หน้าคอมที่ร้องไห้อย่างหนักราวกับกับจะขาดใจ
จินยองไม่เคยคิดว่าเพื่อนของเขาจะต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับเร็วขนาดนี้ การเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายโดยการกระโดดตึกลงมาของยองแจในวันนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนที่อยู่รอบข้างไม่มีใครทราบสาเหตุ แม่ของยองแจกล่าวโทษแต่เพียงว่าเธอเป็นสาเหตุที่ทำให้ลุกชายของตนต้องคิดสั้นจนฆ่าตัวตาย หัวใจของคนเป็นพ่อแม่แทบแตกสลาย จินยองที่เป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของยองแจก็ไม่ต่างกัน
จินยองตัดสินใจสารภาพกับเจบีว่า บ้าน HAPPY (BA)MAKER คือบ้านแฟนไซต์ที่ยองแจเป็นคนทำขึ้น และนั่นก็ทำให้จินยองได้รู้จากปากของเจบีว่า พวกเขารู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว เพราะพวกเขาเคยเห็นชื่อบ้านแฟนไซต์หลังนี้ติดอยู่บนกล้องของยองแจ
เหล่าแฟนคลับในทวิตเตอร์ต่างพากันพูดถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของมาสเตอร์นิมบ้านแฟนไซต์ชื่อดังอย่าง HAPPY (BA)MAKER และข้อความที่เกี่ยวข้องกับบ้านหลังนั้นก็ถูกเมนชั่นเข้ามาในทวิตเตอร์ของไอดอลหนุ่มผู้เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดบ้านหลังนี้
และเขาก็รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของมาสเตอร์นิมบ้านนี้เป็นใคร…
BamBam (@BamBam1A)
ผมขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่คุณทำให้ผม ผมสัญญาว่าผมจะไม่มีวันลืมคุณ ผมจะอธิษฐานให้คุณ ขอบคุณสำหรับความสุขที่คุณสร้างมาให้ผมนะครับ
เพียงไม่กี่นาทีที่ข้อความของเขาทุกทวิตออกไปเพื่อให้ทุกคนเห็นว่า เขารับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว คำชื่นชมและข้อความต่างๆนานาก็ถูกเมนชั่นเข้ามาหาแบมแบมอย่างไม่ขาดสาย ใบหน้าหวานยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจกับผลตอบรับ
และรอยยิ้มของเขาก็บ่งบอกถึงความพึงพอใจ…
ที่ความลับของเขา มันตายไปพร้อมกับคนที่ชื่อชเวยองแจ…
นั่นล่ะ วิธีที่จะทำให้ความลับยังคงเป็นความลับต่อไปได้
แล้วพวกคุณล่ะ คิดแบบผมรึเปล่า ?
…THE END…
ผลงานอื่นๆ ของ _getz7lady2 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ _getz7lady2
ความคิดเห็น